ร้อนนี้ยังไหว ตัวหอมทั้งวันฉบับธรรมชาติ

“กลิ่น” มีผลต่อ “จิตใจ”

 

ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยทั้งไทยและเทศต่างก็ลงความเห็นแล้วว่า

“กลิ่น”

มีผลในทางการรักษา เยียวยา ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ

ถ้าให้เห็นภาพง่ายขึ้นก็คงไม่พ้น กลิ่นของอาหาร ที่ทำให้เรารู้สึกหิว  น้ำลายสอ  หรือ กลิ่นดอกไม้ สดชื่น ยิ้มได้ตลอดเวลา

 

คำถาม : คนไทยกลิ่นอะไร ….

จากการสืบเสาะลัดเลาะเรื่องนี้มาสักพักพบว่า กลิ่นคนไทยคือ กระเทียม ค่า  อาจจะเพราะคนไทยเน้นบริโภคอาหารแต่ละเมนูนั้นล้วนแต่ต้องมี “กระเทียม” เป็นส่วนผสมไม่มากก็น้อย ถ้าจะตอบให้กว้างๆ คือ อยู่ที่ว่าเรารับประทานอะไรค่ะ  คนที่รับประทานเครื่องเทศ สิ่งที่ขับออกมาเป็นเหงื่อและกลิ่นนั้นจะเป็น กลิ่นเครื่องเทศ หรือถ้ารับประทานนม เนย ชีส กลิ่นที่ออกมานั้นก็จะเปลี่ยนเป็นกลิ่นนม เนย ชีส  อ่านถึงตรงนี้ทุกคนอาจคิดว่า กลิ่นไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่ถ้ามี “แบคทีเรียบนผิว” มารวมด้วยก็อาจจะเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ส่งผลให้วันปังๆ กลายวันพัง ได้เลยทีเดียว  ซึ่งตัวช่วยหลักทุกวันนี้ก็คือ น้ำหอม น้ำหอม และ น้ำหอม ที่ฉีดพรม ก่อนออกจากบ้านเพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับเหล่าหนุ่มสาว

 

ปัญหากวนใจ ทั้งฉีด ทั้งทา กลิ่นตัวยังมี !!

 

ทุกวันนี้ กว่าจะฝ่าดงแดด ผู้คนมากมาย การเดินทางเบียดเสียด ( ชิดในหน่อยพี่ ชิดใน!! ) หรือแม้กระทั่งอากาศประเทศไทยที่พร้อมจะเปลี่ยนตลอดเวลา กลิ่นน้ำหอมที่เราบรรจงฉีดพรมนั้นก็อาจจะเจือจางหายไปภายในเวลาไม่กี่ ชม.ค่ะคุณขา  ทางที่ดีเพื่อพิชิต “กลิ่น” ของตัวเราให้ติด ทน ทั้งวัน ยันกลับบ้าน ขอแนะนำวิธีตามนี้เลยค่ะ

ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายจากสารส้มธรรมชาติ
   ระงับกลิ่นด้วยสารส้มธรรมชาติ แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด

      1. การแก้ไขที่สาเหตุ  ของกลิ่นด้วยการยับยั้งการเกิดเหงื่อ ด้วย สารส้ม  เอาแบบฉบับดั้งเดิมเลยค่ะ สารส้มนี้อยู่หมัดทุกราย แต่มาแบบใหม่แบบสับนะคะ  ไม่ได้มาเป็นก้อนใช้ลำบาก ครูดถู ใต้วงแขนเราเหมือนรุ่น y2k  ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายสารส้มธรรมชาติคุณภาพคัดเกรด ระดับเวทีรางวัล ชีวจิต  มีทั้งรูปแบบ แท่ง ใช้ง่าย รูปแบบโรลออน เนียนแนบไปกับผิว  รูปแบบสเปรย์ ที่ยับยั้งกลิ่นอับ ไม่พึงประสงค์ ใต้วงแขน และเท้า ได้ เพียงฉีด 1-2 สเปรย์  ที่สำคัญมีหลายสูตร เหมาะกับทุกไลฟ์สไตล์  ถ้าใครติดการฉีดน้ำหอม แนะนำ สูตรธรรมชาติเลยค่า

 

ขอบคุณภาพประกอบ : https://www.bebeautiful.in/all-things-skin/everyday/vaseline-petroleum-jelly-benefits-and-uses

       2.  ทาวาสลีน / โลชั่นไร้กลิ่น บริเวณที่จะฉีดน้ำหอม วิธีการนี้จะช่วย ล็อคความหอม ให้ติดทนได้ค่ะ มีการศึกษาแล้วว่าหากฉีดน้ำหอมลงบนผิวที่แห้งกร้าน ไร้ความชุ่มชื้น น้ำหอมจะระเหยออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างอะไรเลยกับการ รดน้ำใน ดินแห้ง ทราย รดปุ๊ป ซึมออกไป

                         บริเวณที่ควรฉีดน้ำหอม เพื่อกระจายกลิ่นได้ดี

ขอบคุณภาพประกอบ : https://www.glossybox.co.uk/magazine/2017/12/11/how-to-apply-perfume/

 

       3. ฉีดให้ตรงจุด  ฉีดน้ำหอม ลงบริเวณจุดชีพจร หลายคนอาจมีความเคลือบแคลงในใจ ทำไมต้องจุดชีพจร  และ จุดไหนบ้างละ เหตุผลที่ควรฉีดบริเวณจุดชีพจรเพราะบริเวณนั้นจะสามารถกระจายกลิ่นน้ำหอมได้ดีที่สุดค่ะ  น้ำหอมหรือกลิ่นต่างๆ จะอาศัย อุณหภูมิเป็นนำพากลิ่นให้ล่องลอยออกไปนั้นเอง  ส่วนจุดไหนบ้าง ก็มี บริเวณข้อมือ  ข้อพับ หลังหู  หรือง่ายๆคือ จุดที่มีเส้นเลือดเต้นตุ๊บๆ ฉีดเลยค่ะ มั่นใจ กลิ่นฟุ้ง


4.  ทาโลชั่นที่มีกลิ่นใกล้เคียงกับน้ำหอม หรือ แนวเดียวกัน 
ปัจจุบันโลชั่นทาตัวก็มีหลากหลายกลิ่นจนเราเลือกซื้อกันเยอะมากจนไม่ทันใช้  แถมโปรโมชั่นก็ออกมายั่วยวนใจอยู่เรื่อยๆ  การเลือกกลิ่นโลชั่นที่ไม่รุนแรงและอยู่ในแนวเดียวกันกับกลิ่นน้ำหอมเราจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่นอกจากกลิ่นตัวเราจะหอมดั่งใจ ยังหอมได้ยาวนานอีกด้วยค่ะ

ทา ฉีด ยังไม่พอ !! 

ขอแบบบำรุงจากข้างใน รับประทานเข้าไปแล้วตัวหอมมีมั้ย   มีค่ะ !! ทาง รพ. เจ้าพระยาอภัยภูเบศร ก็ได้มีผลิตภัณฑ์ ชาตัวหอม ดื่มปุ๊ป หอมปั๊บ กลิ่นกายละม้ายคล้ายดอกไม้กันเลยทีเดียว

สมุนไพรที่นำมาทำชาตัวหอมนั้น ประกอบไปด้วย

– ใบบัวบก สรรพคุณเพิ่มการไหลเวียนเลือด คือ

– ขลู่  สรรพคุณในการขับเหงื่อ

– ดอกไม้กลิ่นหอมหลากหลายชนิด ได้แก่ จำปีจำปา กระดังงา  ลีลาวดี ส่วนหลักสำคัญที่ทำให้ตัวหอม

 

ดอกไม้ตัวหอม
                                ดอกจำปี ดอกกระดังงา ลีลาวดี

 

 

เรียบเรื่องโดย : พท.ป อัจจิมา พงษ์พัว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!